บุกไปเยือนเมืองเบียร์ การเดินทางในครั้งนี้ฝากชีวิตไว้กับ Oman Air โดยไปเปลี่ยนเครื่องที่กรุงมัตกัส
เมื่อเครื่อง Take Off ผ่านเทือกเขาต่างๆ มันช่างงามจนอยากจิกระโดดลงไปข้างล่างแทน ซึ่งมันถูกปกคลุมไปด้วยหิมะ แบบนี้
เครื่องบินลำใหม่ อาหารก็โอเค แต่จะออกรสชาติอินตรเดียไปนิดนึง Full Services นี่มันดีงามจริงๆ เสริฟตลอด ที่สำคัญบริเวณหน้าต่างไม่ต้องเลื่อนเปิด-ปิด เค้ามีสวิตท์กด จากหน้าต่างสีใสก็กลายเป็นสีทึบ มืดเลย ดีงาม (เพิ่งเคยเห็น บ้านนอกมาก)
อาหารของเรา ไก่อะไรซักอย่างอร่อยดีชอบๆ
และเมื่อเครื่องบินแตะพื้นรันเวย์ของสนามบิน Frankfurt ตอน 18.45 น. เครื่องบินของ Oman air ลงที่ Terminal 2 ต้องเดินไปซื้อตั๋วรถไฟเข้าเมือง เคาน์เตอร์ที่จำหน่ายบัตรเข้าเมืองอยู่ Terminal 1 Hall B level 1 จากนั้นลงมาด้านล่างเพื่อขึ้นรถไฟ
เดินทางจากสนามบินสู่เมืองแฟรงเฟริต สนามบินแฟรงเฟริตนั้นตั้งอยู่ห่างออกไปเพียง 12 กิโลเมตรจากตัวเมือง ซึ่งจากสนามบินคุณสามารถเดินทางมายังเมืองแฟรงเฟริตได้โดยง่าย โดยเลือกใช้บริการของ รถไฟ, รถบัส หรือรถแท็กซี่
-รถไฟ มีสถานีรถไฟบริการจากสนามบินถีง 2 สถานี ซึ่งจากตรงนี้คุณสามารถเลือกนั่งรถไฟท้องที่(RE,RB) หรือรถไฟสายS8 และ S9 โดยมีจุดหมายที่ Frankfurt(Main) Hauptbahnhofซึ่งรถไฟสายเดียวกันนี้ก็ยังสามารถเดินทางไปยังเมืองอื่น ๆ ได้เช่นกัน เช่น Offenbach, Hanau, Russelsheim, Mainz และ Wiesbaden ค่าโดยสารเที่ยวเดียวจะอยู่ที่ประมาณ 3.70 ยูโร เราเลือกวิธีนี้ง่ายดี
-รถบัส รถบัสจะเดินทางออกจากอาคารผู้โดยสาร 1 ในส่วนของขาเข้า และ อาคารผู้โดยสาร 2 ทั้งส่วนขาเข้า และขาออก
-รถแท็กซี่ หากคุณใช้บริการรถแท็กซี่ คุณจะใช้เวลาเพียง 15 นาทีในการเดินทาง ค่าโดยสารจะอยู่ที่ประมาณ 20-25 ยูโร
มาถึงแล้นนนนสถานี Frankfurt(Main) Hauptbahnhof
หลังจากออกสถานีมาก็ข้ามถนน แล้วเลี้ยวขวาเดินประมาณ 500 เมตร จะเจอโรงแรมตั้งตระง่านอยู่ตรงหน้า เราเลือกพักที่โรงแรม Hotel Continental ค่ะ เค้าให้ Check in หลัง 15.00 น. Check out ก่อน 12.00 น. เด้อ (จองผ่าน Agoda)
วิวจากโรงแรม
เนื่องจากเหนื่อยล้าจากการเดินทางเมื่อขึ้นไปถึงห้องพักก็สลัดกระเป๋าและล้มตัวลงนอนทันที ห้องโอเคค่ะสะอาดอยู่ เดินทางง่ายด้วยขากลับเข้าสถานีรถไฟนี่ไม่ต้องกลับทางเดิมนะคะ ข้ามถนนตรงหน้าโรงแรมเลย ไม่ถึง 200 เมตรถึงแระ
เวลา 8.30 น. ก็เริ่มออกเดินตามถนน Kaiserstrasse หน้าสถานีรถไฟ Frankfurt(Main) Hauptbahnhof เดินไปเรื่อยๆ ค่ะ ไปถ่ายรูปกับ Eurotower
ถึงแล้ว Euro Tower
ถ่ายรูปเสร็จก็เดินช้อปปิ้ง และ ชมเมืองรอบๆ
เมืองที่นี่เหมือนไม่ค่อยมีอะไรแต่ก็สวยงามอยู่นะ โดยเฉพาะผู้ชายเมืองนี้ 555+ เนื่องจากเราหาร้านขายรองเท้า Uebervart ไม่เจอใน map บอกอยู่ใกล้ร้าน Starbuck ตรงสถานี Hauptwache (ชายหนุ่มสูงขาวหน้าตาดี ใส่แว่น เนิ๊ดนิดๆ น่ารัก) เค้าเดินผ่านมาพอดีเลยถามเค้าว่าร้านหายไปไหน คือไม่ค่อยได้ฟังว่าเค้าพูดอะไร มองหน้าอย่างเดียว ฮี่ๆ สรุปร้านหายไปไหนไม่รู้ เดินนไป หิมะตกไป หนาวก็หนาว แต่ชอบ เพราะเราชอบอากาศหนาว โรคจิตป่าวก็ไม่รู้ เราเลยไปแวะร้าน Foot Locker แทน มาเมืองนี้คือเดินหาแต่รองเท้าค่าาาาาา 🙂
เดินซื้อของเพลินมาก จนลืมไปว่ารถไฟออก เวลา 11.54 เพื่อไป Munich เหลือบดูนาฬิกาเหลืออีก 15 นาทีรถไฟจะออก คือวิ่งตาเหลือกมาที่โรงแรม ดีที่โรงแรมอยู่ใกล้สถานี เหนื่อยโฮกเลย
ถึงแล้วสถานี Munchen แวะกดน้ำที่ตู้หยอดเหรียญ เพราะอากาศแห้งหิวน้ำมาก ด้วยความที่น้ำมีหลายแบบมองที่ตู้ก็ไม่ค่อยชัด เลยตัดสินใจซื้อที่ราคาถูกที่สุด 1 ยูโร เป๊ปซี่ 1.5 ยูโร จากนั้นลากกระเป๋าเข้าโรงแรม Hotel Dolomit อยู่หน้าสถานี Muchen hbf เลย เดิน 5 นาทีถึง ทิ้งสัมภาระทุกอยาก เปิดน้ำกินด้วยความหิว “ขุ่นพระ” โซดามาเต็ม แทบพุ่งออกจากปาก นี่ช้านซื้อผิดหรือ มันซ่ามาก เลยต้องลงไปซื้อน้ำที่เคาน์เตอร์โรงแรม เค้าบอกว่าน้ำมีแบบ Natural (ธรรมชาติ) กับ Sparkling (ผสมโซดา) ให้สังเกตุที่ขวด
ที่พัก Hotel Dolomit
ไปเดินชมเมือง เนื่องจากที่พักไม่ไกลจาก จุดไฮไลท์มาก เริ่มที่ Mary’s Square (Marienplatz) ที่อยู่ใจกลางมหานครมิวนิค สร้างมาตั้งแต่ ค.ศ. 1158 โดยชื่อ Marienplatz แปลเป็นภาษาไทยว่า จตุรัสมาเรีย หรือ จตุรัสแมรี่ รอบๆจะมีร้านรวงต่างๆมากมายตื่นตาตื่นใจกันเลยทีเดียว
บนหอคอยที่สูงกว่า 85 เมตร มีลิฟท์ให้ขึ้นไปชมวิวด้วยนะ ไฮไลท์ของหอคอยนี้คือ ทุกวันเวลา 11 โมง (ในช่วงฤดูร้อนจะมีช่วงเที่ยง และ 5 โมงเย็น) จะมีตุ๊กตาออกมาเต้นระบำด้วย เราว่าวิวตอนกลางคืนเวลาแสงไฟกระทบกับหอคอยแห่งนี้มันงดงาม จนไม่อยากจะหยุดชัตเตอร์เลย
โบสถ์พระแม่มารีทรงหัวหอมคู่
เยือนตลาดวิคทัวเลียน (Viktualienmarkt)
มือค่ำเค้าบอกว่ามาที่นี่ต้องมากินขาหมูเยอรมันกับเบียร์ มีหรือจะพลาด 2 ร้านนี้เป็นร้านดังและเก่าแก่ของที่นี่ อยู่แถวๆ Marienplatz วันนี้เลยลองขาหมูก่อน
ร้าน HAXNBAUER ขาหมูจานใหญ่ ไซส์บึ้ม แต่กินหมดด้วยคนๆเดียว สงสัยจะหิว 555 รสชาติออกเค็มนิดนึงแต่เราชอบ ถ้าใครไม่กินเค็มอาจจะเค็มมาก
ภายในร้านคนแน่นมาก
ครัวที่นี่เป็นครัวแบบเปิด ซึ่งติดกับโต๊ะเราเลย ดูทำให้ไปก็หิวไป
แท่น แท้น แท๊น มาแล้ยเมนูของเรา
น้ำโค้กถ่ายมีสัญลักษณ์ร้านด้วยถ่ายเก็บไว้เป็นที่ระทึกซะหน่อย
Slices of Pork Knuckle with and mashed potato ขาหมูหนังกรอบ เนื้อแน่น เสิร์ฟพร้อมมันฝรั่งบด และ ชูเคร้าท์ ชูเคร้าท์อร่อยดี ไม่เปรี้ยมมาก ขาหมูนี่ชอบกินตรงหนังมันนี่แหละ อ้วนช่างมัน กลับไปค่อยลด
Slices of veal knuckle with potato dumpling and mix salad เป็นขาหมูเนื้อลูกวัว นุ่มละมุนลิ้น มันฝรั่งเหนียมหนึบมาก ไม่ได้เป็นมันฝรั่งเพียวๆ
เหลือแต่มันฝรั่ง กินไม่ไหวแล้ว
ร้าน HAXNBAUER im Scholastikahaus เปิด 11.00-00.00 น.นะคะ
เก็บตกอีกวัน Residents Muchen พระราชวังที่เก่าแก่ที่สุดของเมืองมิวนิค
วิวรอบๆเมือง
มื้อค่ำเราไปจิ๊บเบีย์ร้าน HOFBRAUHAUS เป็นร้านเก่าแก่อายุกว่า 100 ปี ซึ่งเป็นสถานที่ๆ “อดอฟท์ ฮิตเลอร์” เคยใช้เป็นแหล่งอภิปรายหาเสียงตั้งแต่สมัยที่เขายังเป็นนักการเมืองตำแหน่งเล็กๆ เปิด 9.00-23.30 น.
มีเกือบทุกวัย คนแน่นมาก เดินเข้ามายังกะเชียร์บอล เสียงคุยกันดังมาก
มีความอิจฉา
แก๊งหนุ่มฝรั่ง ชาติไหนไม่รู้ (ขอนั่งหัวโต๊ะได้ป่าวอ่ะ แต่ไม่จ่ายนะ)
เมนูของร้าน
เบียร์มีให้เลือกหลายแบบ มีแก้วขนาด 1 ลิตร และ 500 มล. เบียร์สดรสชาติดี คล้ายๆเบียร์สิงห์บ้านเราแต่รสชาตินุ่มกว่า โดยเราสั่งแบบ Original กับ แบบ Weisse
มีดนตรีฟังด้วยเน้อ
ขาหมูร้านนี้ก็อร่อยเราว่ามันหอมกลิ่นอบไหม้นิดๆ หนังกรอบมาก ไส้กรอกก็โอเค
อิ่มมากเดินมึนๆกับที่พัก หลับคร่อกๆๆๆ
พูดคุยกันได้ที่ :
Facebook: https://www.facebook.com/atravelerblog/
IG: A_Traveler_Blog
Twitter: A Traveler Blog
ความเดิมตอนที่แล้วได้เล่ารายละเอียดแผนการเดินทางทั้งหมด 12วัน 5ประเทศ 11เมือง ดูรายละเอียดเพิ่มเติม
https://iamatravellers.com/2016/04/20/เมื่อมือลั่นไปจองตั๋วถ/
รีวิวที่พักทั้งหมด 8 ที่ที่ไปพักมาก
https://iamatravellers.com/2016/05/02/รีวิวที่พักยุโรปตะวันอ/
“Obertraun Austria” ตอนไปไม่รู้มีอะไร แต่ไปแล้วรักเลย
https://iamatravellers.com/2016/04/25/obertraun-austria-ตอนไปไม่รู้มีอะไร-แต/