ถ้าพูดถึงเชียงใหม่ คงไม่มีใครไม่รู้จัก มันอยู่ภาคเหนือของประเทศไทยนะ เมืองนี้คนแน่นเกือบทั้งปี โดยเฉพาะ ช่วงเทศกาล และหน้าหนาว เมื่อก่อนรถโล่งแต่ตอนนี้รถติดมาก ถนนนิมมานนี่อย่าได้พูดถึงเลย ขับเกียร์ธรรมดา พอจอดรถที่นี่ขาสั่นระริกๆ เลยทีเดียว เส้นเอ็นหน้าขาตึงมาก พูดเลย
การเดินทางมาเชียงใหม่ มี 4 แบบด้วยกัน
- เดินทางด้วยเครื่องบิน สะดวก รวดเร็ว ประหยัดเวลา โดยใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.15 ชั่วโมง สนามบินหลักๆ ของที่นี่คือ สนามบินนานาชาติเชียงใหม่ ติดกับ กองบิน 41 และ ห้างโรบินสัน
- เดินทางด้วยรถบัส หรือ รถทัวร์ ลงสถานีขนส่งเชียงใหม่ (อาเขต) มี 2 ฝั่งนะคะ ฝั่งเก่ากับฝั่งใหม่ ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามถนนกันค่ะ โดยฝั่งเก่าตอนนี้น่าจะมีแต่นครชัยแอร์ที่ยังวิ่งอยู่ ส่วนที่เหลือไปอยู่ฝั่งตรงข้ามค่ะ เดินทางประมาณ 9 ชั่วโมง รถทัวร์ยอดนิยมจะเป็น นครชัยรแอร์, บขส. และ สมบัติทัวร์ สถานที่ใกล้เคียงคือ ห้างเซ็นทรัลเฟสติวัลเชียงใหม่ และ Community Mall ชื่อ Star Avenue ค่ะ
- เดินทางโดยรถไฟ ลงที่สถานีรถไฟเชียงใหม่ บนถนนเจริญเมือง ใกล้กับวัดเกตุ และ ท่าแพ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 9 ชั่วโมง
- เดินทางด้วยรถยนต์ รถส่วนตัว หรือ แมงกะไซด์ (มอเตอร์ไซด์) ใช้เวลาเดินทางประมาณ 7-9 ชั่วโมง ขึ้นกับความเร็วของผู้ขับขี่ เอาให้ปลอดภัยไว้ก่อนชัวร์สุด
ส่วนวันนี้เรามาแนะนำเส้นทางสายโรแมนติก ที่หน้าหนาวทีไรใครๆต่างก็มาเยือน นั่นคือ แม่กำปองค่ะ โดยการเดินทางไปแม่กำปองนั้นเราจะเริ่มตั้งแต่ สนามบินนะคะ เพราะว่าจากสนามบินเชียงใหม่ไปแม่กำปองนั้น คุณแทบจะไม่ต้องเลี้ยวเลย ตรงยาวไปตามถนนอย่างเดียวค่ะ แล้วคุณก็จะเจอแม่กำปองเอง รับรองได้ว่าไม่มีหลงทางแน่นอน แถมระหว่างทางมีของดีของเด็ดที่คุณต้องแวะกินอีกเพียบ โดยดูจากแผนที่ของเราตามนี้นะคะ
เริ่มจุด Start ที่สนามบินเชียงใหม่ ออกมาแล้วแล้วขวา ตรงมาจะเจอแยกโรบินสัน แหล่งช้อปปิ้งยอดฮิตของคนที่นี่ คนเยอะ รถติดมาก เพราะมีอยู่ห้างเดียว ตอนนี้ดีที่มีเซ็นทรัลเฟสติวัลเชียงใหม่ มาแบ่งเบาการจราจรไปบ้าง ตรงสี่แยก ถ้าคุณเลี้ยวซ้ายและกลับรถคุณเจอร้าน โอ้กะจู๋ สาขาNim City เป็นสาขาที่ 2 รสชาติความอร่อยเหมือนสาขาแรกเลย เน้นผักปลอดสารพิษ เราชอบสลัดผลไม้รวมพูดแล้วก็หิว (โดยภาพนี้เราถ่ายที่สาขาแรกนะคะ)
เมนูจานใหญ่มากใครกระเพาะเล็กแนะนำว่าให้สั่ง 1 จานกิน 2 คนค่ะ
เมนูนี้แนะนำต้องกิน สลัดผลไม้ อร่อยมากกกกกก ไปกี่ครั้งๆก็สั่ง ไม่เคยพลาด
ตรงมาอีกหน่อยจะเจอแยก ด้านซ้ายจะมีโรงแรม Airport Residence เลี้ยวซ้ายไปหางดงค่ะ ให้ตรงไป และสังเกตด้านขวา จะมีร้านบุฟเฟ่ เนื้อย่างชื่อ “ซูซูรัน” ราคาประมาณ -300-500 บาท มีเนื้อหลายแบบ ทั้งในและนอกประเทศเลย คนเชียงใหม่รู้จักกันดี แต่ถนนเลี้ยวไม่ได้นะคะ ต้องตรงไป และไปกลับรถตรงสะพานภาค 5 ค่ะ อยู่ก่อนถึงห้างโรบินสันให้สังเกตุด้านซ้ายมือเอาไว้ อร่อยรึเปล่าคุณต้องไปลองซักครั้ง เราว่าอร่อยดี โดยร้านจะเปิดช่วงเย็นนะคะ 17.00-24.00 น.
ขับรถเลยมาอีกหน่อย ก่อนถึงเชียงใหม่แลนด์ ด้านซ้ายมือจะเป็นร้านเบเกอรี่ยอดฮิตของเชียงใหม่ ร้านนี้ขึ้นชื่อเรื่องบราว์นี่อร่อย มีหลายแบบ อันเล็ก 45 บาท อันใหญ่ 150 บาท แต่เราชอบเค้กส้มมากกว่า ราคา 60 บาท ชื่อร้าน ต้องตา & ตะวัน เบเกอรี่
หน้าตาบราวนี่ มีหลายแบบให้เลือก ทั้ง บราวน์นี่ธรรมดา หรือมีใส้ เช่นอัลมอลต์ ลำใย เป็นต้น ถ้าสั่งบราวน์นี่ธรรมดาด้านหน้าจะเขียนว่า “บราวนี่เฉยๆ” ตรงมาก ไม่ต้องแปลไทยเป็นไทยเลย 555+
หน้าตาเค้กส้ม เราชอบอร่อยหอมกลิ่นส้มดี ไปกี่ทีก็ซื้อกลับ
แวะชิมแล้วก็เดินทางต่อไป ขับต่อมาทีนี้คุณจะเจอ แยกศรีบัวเงินพัฒนา (แต่ก่อนถึงจะเห็นบิ๊กซีเชียงใหม่ด้านซ้ายนะคะ) โดยด้านขวาจะเป็น Community Mall ชื่อว่า พรมเมนาดา (คนเดินน้อยมาก) แวะช้อปและกินข้าวได้ หรือถ้าไม่อยากช้อป ก็เลี้ยวขวาตรงไปก่อนถึงมหาวิทยาลัยพายัพจะมีร้นอาหารเหนืออีกร้านชื่อ “ลำดีตี้ขัวแดง” ร้านนี้ก็อาหารเหนืออร่อย แนะนำให้กิน ตำขนุน และ เต้าฮวยมะพร้าวอ่อน อร่อยเหาะเลย
ขับรถตรงมาอีก 2 แยกไฟแดง เลยแยกบ่อสร้างมาคุณจะเจอร้านอาหารชื่อ “ครัวไม้หมอน” อาหารรสชาติดี เปิดตอนเย็นนะคะ
เลยมาอีกหน่อยจะเป็นร้าน “สวนผักฮักคุณ” ร้านนี้จะคล้ายๆกับโอ้กะจู๋ เน้นผักปลอดสารพิษ ด้านหลังร้านมีแปลงสวนผักให้เดินชมได้ แต่สำหรับเรา เราว่าโอ้กะจู๋อร่อยกว่า อุ๊บ!!!!!!
หลังจากที่เรากินมาตลอดทางแล้วเรายังคงต้องกินต่อไปค่ะ ร้านนี้คุณจะพลาดไม่ได้ ถ้าคุณพลาดแสดงว่าคุณยังมาไม่ถึงเชียงใหม่ เป็นร้านอาหารเหนือชื่อว่า “เฮือนใจ๋ยอง” ด้านหลังมีพิพิธภัณฑ์ให้ชมด้วยนะคะ คนแน่นทุกวัน เรามาบ่อยมากร้านนี้(สำหรับเราอร่อยเกือบทุกอย่าง)
ร้านจะเป็นบ้านไม้ 2 ชั้น
ด้านล่าง คนแน่นทุกวัน
ด้านบนชั้น 2 นั่งเหมือนกินขันโตก ตอนขึ้นไปมี 2 โต๊ะ ซึ่งกำลังจะเก็บตังพอดี แต่หลังจากที่ 2 โต๊ะนี้ลุกไปแค่นั้นแหละ วังเวงมากก กก คือนั่งคนเดียว เปลี่ยว แล้วบรรยากาศมันได้ มีรูปเก่าๆ ติดอยู่รอบๆ คือ อยากย้ายลงไปนั่งด้านล่างมาก ไม่มีใครขึ้นมาด้านบนเลยพูดเลย
ด้านล่างเค้าจะมีขนมขายด้วนะเทอเป็นขนมเมืองๆ พื้นบ้านๆ อันนี้เป็นไข่ป่าม อันละ 10 บาท ล้ำลำเน้อเจ้า
อันนี้ขนมไข่ตเต่า (มันแป้งทอดด้านในเป็นไส้ถั่ว คลุกน้ำตาล แม้มันจะอ้วนแต่เจอทีไรก็ซื้อ เพราะอยู่กรุงเทพหาไม่ค่อยเจอ)
อันนี้ผัดหมี่ค่ะ (เอาเส้นขนมจีนมาผัดปรุงรสนิดหน่อย อร่อยไปอีกแบบ คือลองให้หมด จุกมาก)
แกงขนุน หรือ คนเหนือเรียกว่า “แก๋งบะหนุน”
ผักเชียงดาผัดไข่
ข้าวเหนียวกระติ๊บ อันเล็กๆน่ารักเชียว
เดินเข้ามาข้างในจะมีร้านกาแฟนะคะ จริงๆอยู่ข้างบ้านเลย
เดินมาอีกหน่อยจะเป็นหอศิลป์ หรือ เฮือนศิลป์ใจ๋ยองจะเป็น เสมือนหอศิลป์ ที่เผยแพร่งานศิลป์ของที่นี่
อิ่มรึยังคะ ถ้ายังไม่อิ่มไปต่อกันที่นี่เลยค่ะ ร้าน “ก๋วยเตี๋ยวเป็ดบ้านทุ่ง” ร้านนี้เปิดมานานมากอยู่ติดถนนใหญ่ อยู่ด้านขวามือ มีอยู่ร้านเดียวในละแวกนั้น ที่นั่งติดถนนจะเป็นซุ้มๆ สังเกตง่ายมาก
หรือยังไม่ถูกใจ ขับเลยไปอีกหน่อยจะเจอร้านก๋วยเตี๋ยวห้อยขา เพิ่งเปิดใหม่ คนเยอะอยู่แต่เราว่าเฉยๆ นะคะ บรรยากาศใช้ได้ค่ะ
หลังจากที่เราแวะกินตลอดทางแล้ว หนังท้องตึงหนังตาก็หย่อน อยากจิหลับ คิดว่าจะถึงแม่กำปองกี่โมงกันนี่ หมดแล้วค่ะร้านแนะนำ คุณสามารถขับรถตรงยาวไปเรื่อยๆ ทางจะเป็นเนินขึ้นเขาลงเขา เก๋งไปได้ แต่กระบะจะดีกว่าเพราะทางออฟโรดยังกะแข่งแรลลี่ กรุณาเตรียมดอกยางล้อรถคุณให้พร้อม เกิดรถลื่นไหลจะเป็นอันตรายได้ ขับตรงอย่างเดียวจนกว่าคุณจะเจอทางแยกนี้ค่ะ
แยกซ้ายไปไจแอ้นท์ (ร้านกาแฟบนต้นไม้) ขับไปอีกประมาณ ขับรถไปประมาณ 10 กิเมตร ทางมหาโหดมาก พอๆกับแยกขวา ถ้าขึ้นไปร้านกาแฟชมนกชมไม้นะคะ ถ้าถามว่าวิวเป็นไงบ้างตอบได้เลยว่าสวย บรรยากาศดี แต่กาแฟไม่ค่อยเท่าไหร่ แก้วนึงก็ร้อยกว่าบาท
แยกขวาไปแม่กำปองค่ะ โดยก่อนถึงแม่กำปองจะมีสถานที่ให้คุณได้แวะตื่นตาตื่นใจ อีกหลายที่เลย โดยเราขอเน้นหลักๆ ดังนี้ค่ะ เมื่อเลี้ยวขวามาแล้วขับตรงมาจะเจอโครงการตีนตก มีบ้านพักให้ค้างคืนด้วยนะคะ วิวดีเว่อร์
ขับมาจะเจอร้านกาแฟชื่อ “ลุงปุ๊ดป้าเป็ง” อยู่ด้านขวามือ ร้านจะเก่าๆหน่อย บรรยากาศดีด้านในมีน้ำตกด้วยนะฮะ ร้านติดภูเขาเลยเหมือนเรากำลังสำรวจป่า 555+
วิวรอบๆแม่กำปอง ดื่มด่ำกับธรรมชาติมาก
ขับขึ้นมาทั้งซ้ายขวาจะมีโอมสเตย์เยอะเลยสามารถเลือกได้ตามใจชอบ
ที่พักใหม่ชื่อ YLife
อันนี้น่าพักอ่ะ แต่เราถ่ายรูปไม่สวยชื่อ สราญชน เนื่องจากเอากล้องถ่ายรูปไป แต่ไม่ได้เอาแบตเตอรี่ไป เซงมาก
และแล้วเราก็มาถึงร้านสุดท้ายคือร้านกาแฟชมนกชมไม้ค่ะ ทางขึ้นร้านชันมากขอบอก ถ้าไม่อยากขึ้นจอรถไว้ด้านล่างก็ดีค่ะ
จบการเดินทางสายโรแมนติก เพียงเท่านี้ เชียงใหม่มีอะไรให้น่าค้นหาอีกเยอะ 🙂
ขอบคุณภาพประกอบบางส่วนจาก google.com
พูดคุยกันได้ที่ : https://www.facebook.com/atravelerblog/
IG: A_Traveler_Blog
Twitter: A Traveler Blog